วรรณคดีเรื่อง รามเกียรติ์ นำเค้าโครงเรื่องมาจาก “รามายณะ” ที่แต่งโดยวาลมิกิชาวอินเดียเมื่อประมาณ 2,400 ปีมาแล้ว เพราะในอดีตราวพุทธศตวรรษที่ 7-8 เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ทำการค้าขายกับอินเดียทำให้ได้รับอารยธรรม ความรู้ และตำราต่าง ๆ ไปด้วยนั่นจึงทำให้รามายณะกลายเป็นนิทานที่นิยมอย่างกว้างขวาง โดยแต่ละประเทศก็ได้ปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้เหมาะสมกับวัฒนธรรมของตน
วิวัฒนาการ รามเกียรติ์ ในประเทศไทย
สำหรับในประเทศไทยที่นำรามายณะมาปรับจนกลายเป็นวรรณคดีประจำชาติ ก็คือตั้งแต่สมัยอยุธยา พระราชนิพนธ์โดยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เมื่อเข้าสมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 ได้รวบรวมวรรณคดีเรื่องนี้ขึ้นใหม่ เพราะในอดีตไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ต่อมาในรัชกาลที่ 2 ทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องนี้เพื่อใช้เล่นละครหลวง และในสมัย รัชกาลที่ 6 ทรงพระราชนิพนธ์บทละครโดยใช้ รามายณะ ที่เป็นต้นฉบับดั้งเดิม โดยใช้ชื่อว่า “บ่อเกิดรามเกียรติ์”
จุดเริ่มต้นความสนุกของ รามเกียรติ์
วรรณคดีเรื่องนี้จะว่าไปแล้วตัวละครที่ทำให้เกิดเรื่องราวต่าง ๆ ก็คือ “นนทก” ที่เป็นยักษ์รับใช้ของพระอิศวร และต้องคอยล้างเท้าให้กับเทพที่มาเข้าเฝ้าพระอิศวร ซึ่งนนทกมักจะถูกเทพต่าง ๆ กลั่นแกล้งบ่อยครั้งเข้าก็ทนไม่ไหว จึงได้ขอนิ้วเพชรจากพระอิศวร ที่มีฤทธิ์ชี้ไปที่ใครคนนั้นก็จะต้องตายเทื่อได้มาแล้ว นนทกก็ได้ใช้นิวเพชรแก้แค้นเทพที่เคยแกล้งตน ทำให้เทพเทวล้มตายจำนวนมาก
เมื่อพระอิศวรรู้เรื่องราว จึงให้พระนารายณ์ไปปราบ ซึ่งพระนารายณ์ได้แปลงกายเป็นนางอัปสร แล้วไปหลอกล่อออกอุบายให้นนทกกร่ายรำในท่า “นาคาม้วนหาง” ซึ่งท่านี้นนทกได้ชี้นิ้วเพชรไปที่ขาของตัวเองจนสิ้นฤทธิ์ พระนารายณ์จึงได้คืนร่างเดิม
นนทกเมื่อหลงกลจึงได้ตัดพ้อว่าเขานั้นมีเพียงแค่สองมือ จะไปสู้พระนารายณ์ที่มีหลายมือได้อย่างไร พระนารายณ์จึงให้ยักษ์นนทกไปเกิดใหม่ โดยมีสิบเศียรสิบพักตร์ยี่สิบมือ ทุกมือล้วนมีอาวุธ มีอิทธิฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศได้ ส่วนพระนารายณ์จะเกิดเป็นมนุษย์ธรรมดา (พระราม) แล้วจะไปตามฆ่านนทกให้จงได้ เรื่องราวความสนุกสนาน และความผจญภัยจึงบังเกิดขึ้น
ซึ่งหากใครต้องการรับรู้เรื่องความ ความสนุกสนานของ รามเกียรติ์ ก็สามารถหาอ่านได้โดยทั้งหมดมีมากมายเกือบ 2,000 ตอน มีตัวละครมากมายที่ต้องทำความเข้าใจ อาจจะต้องใช้เวลาที่นานหน่อยกว่าจะอ่านจบ แต่เชื่อว่าคนที่อยากศึกษาเรื่องวรรณกรรมของไทย หรือต้องการความเพลิดเพลินจากการอ่าน วรรณคดีมีประโยชน์ คุ้มค่าอย่างแน่นอน