การ เลี้ยงปูเสฉวน ได้รับความนิยมมาอยากต่อเนื่องเกือบ 10 ปี เพราะเป็นปูที่มีความน่ารักน่าเอ็นดูมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร โดยจะมี 10 ขาเหมือนปูทะเลทั่วไป โตเต็มที่จะมีขนาดประมาณ 5 นิ้ว และจะอาศัยอยู่ในเปลือกหอย จึงทำให้ผู้เลี้ยงสามารถหาสอยสวย ๆ แปลก ๆ มีสีสันสวยงาม เอามาไว้เป็นที่อยู่ หรือหากจะออกไอเดียวาดลวดลายสีสันต่าง ๆ ลงบนเปลือกหอยก็จะทำให้มีความสวยงามไม่เหมือนใครอีกด้วย แต่ก็มีคำถามมากมายว่าปูชนิดนี้ควรเลี้ยงหรือไม่ หากจะเลี้ยงต้องทำยังไง
ควร เลี้ยงปูเสฉวน หรือไม่ ?
การซื้อขายปูเสฉวนบกในปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายคุ้มครอง นอกจากจะไปเก็บมาจากเขตอุทยานแห่งชาติ จึงทำให้ปูชนิดนี้ถูกจับจากแหล่งธรรมชาติมาขาย ถึงแม้จะบอกว่าเป็นการเพาะเลี้ยงเองก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะในประเทศไทยยังไม่พบว่ามีฟาร์ม หรือในต่างประเทศก็ยังไม่มี เพราะปูเสฉวนบกไม่สามารถเพาะขยายพันธุ์จนถึงจุดคุ้มทุนทางการค้าได้ ดังนั้นการนำปูเสฉวนบกมาเลี้ยงจึงถือเป็นการทำลายระบบนิเวศน์ และจะทำให้ปูชนิดนี้ศูนย์พันธุ์ไปในที่สุด
หากต้องการจะเลี้ยงสิ่งที่ควรรู้ก่อน เลี้ยงปูเสฉวน
- ปูชนิดนี้ไม่ได้มีระบบหายใจที่ถูกออกแบบให้รับให้รับออกซิเจนโดยตรง จึงไม่สามารถที่จะอาศัยอยู่ในน้ำได้เหมือนสัตว์ทะเลอื่น ๆ ก็สามารถลงไปกินน้ำทะเลในยามที่ร่างกายต้องการเกลือแร่
- เป็นปูที่มีอายุยืนยาวหากเลี้ยงอย่างเหมาะสมอาจจะมีอายุถึง 30-60 ปี
- ในช่วงที่ยังเล็กจะเจริญเติบโตด้วยการลอกคราบประมาณ 1-2 ครั้งต่อเดือน หากปูโตแล้วก็จะลอกคราบน้อยลงประมาณ 14-45 วัน ต่อหนึ่งครั้ง
อุปกรณ์สำคัญในการ เลี้ยงปูเสฉวน
- ตู้เลี้ยงปู – สามารถใช้ตู้ปลาเลี้ยงได้ โดยควรมีความกว้างที่พอดี ควรมีความสูงมากกว่าตัวปู 3-4 เท่าขึ้นไป เพื่อไม่ให้เกิดการแออัด และป้องกันปูไต่ออก
- อุปกรณ์ภายในตู้ – ต้องมีของอย่าง กรวด ทราย ขอนไม้ เพื่อให้ปูมีพื้นที่เดินเล่น หรือจะใส่ของตกแต่งอื่น ๆ ด้วยก็ได้ และภายในตู้ต้องมีความชุ่มชื้นที่พอเหมาะด้วย
- อาหาร – อาหารของปูชนิดนี้จะเป็นจำพวก เนื้อกุ้ง เนื้อปลา ผักผลไม้ ข้าวสวย เป็นต้น
- มีจาน 2 ใบ – ควรเป็นจานใบเล็ก ๆ ที่มีไว้ใส่น้ำจืด และใส่น้ำเค็มโดยอาจจะใส่เกลือเม็ดลงไปสำหรับเวลาที่ปูต้องการเกลือแร่
- เปลือกหอย – เปลือกหอยสำหรับเปลี่ยนควรมีขนาดใหญ่กว่าของเดิม
จะเห็นว่าการ เลี้ยงปูเสฉวน ไม่ได้ยากอะไรมากมาย แต่ก่อนเลี้ยงก็ควรพิจารณาถึงข้อดีข้อเสียว่ามีอะไรบ้าง ควรเลี้ยงหรือไม่จะเลือกความสวยงาม หรือเลือกรักษาธรรมชาติก็ขึ้นอยู่กับวิจารณะญาณของแต่ละคน