สำหรับวิธีคุมกำเนิดนั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธี โดยแต่ละวิธีก็จะมีประสิทธิภาพการคุมกำเนิดที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นการมีความรู้ในเรื่องนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมที่จะมีบุตร
การคุมกําเนิด คืออะไร?
การคุมกำเนิด คือ การป้องกันไม่ให้ไข่และอสุจิมีการผสมกันจนมีการปฏิสนธิเกิดขึ้น โดยสามารถที่จะแบ่งวิธีคุมกำเนิดออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ วิธีคุมกำเนิดแบบชั่วคราว และวิธีคุมกำเนิดแบบถาวร
การคุมกำเนิดแบบชั่วคราว
- ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม โดยจะประกอบด้วยฮอร์โมน 2 ชนิด คือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนโปรเจสติน ซึ่งจะเข้าไปช่วยไม่ให้มีการตกไข่ และทำให้ปากมดลูกมีความหนืดมากขึ้น จึงเป็นการป้องกันไม่ให้อสุจิเข้าไปปฏิสนธิ วิธีนี้มีประสิทธิภาพที่จะคุมกำเนิดได้ประมาณ 91% โดยจะต้องรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมให้หมดแผงด้วย
- ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว ยาคุมกำเนิดชนิดนี้มีฮอร์โมนโปรเจสตินเพียงอย่างเดียว โดยจะเหมาะกับผู้ที่ไม่สามารถรับฮอร์โมนเอสโตรเจนได้ ผู้ที่ถุงยางเกิดการฉีกขาดระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์ ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้มีการป้องกัน และกับผู้ที่ต้องการคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน มีประสิทธิภาพคุมกำเนิดประมาณ 91% จะต้องรับประทานยาให้หมดแผง และควรรับประทานยาภายใน 5 วัน หลังจากการมีเพศสัมพันธ์
- แผ่นแปะคุมกำเนิด เป็นวิธีคุมกำเนิดโดยการใช้ฮอร์โมนซึ่งมีลักษณะเป็นแผ่น ทำการแปะบริเวณของผิวหนัง โดยมีประสิทธิภาพคุมกำเนิดเทียบเท่ายาคุมชนิดเม็ด มีประสิทธิภาพที่จะคุมกำเนิดได้ประมาณ 91% หากต้องการที่จะมีบุตรก็สามารถหยุดใช้แผ่นแปะสำหรับคุมกำเนิดได้ในทันที
- ยาคุมกำเนิดชนิดฝัง เป็นการฝังหลอดบรรจุฮอร์โมนที่มีขนาดเล็กไว้บริเวณของต้นแขน โดยจะมีการปล่อยฮอร์โมนที่สามารถยับยั้งการตกไข่ได้ เป็นการช่วยเพิ่มความหนืดที่ปากมดลูก หรือทำให้เยื่อบุมดลูกเกิดการฝ่อจนทำให้อสุจิปฏิสนธิไม่สำเร็จ ด้วยวิธีนี้จะมีประสิทธิภาพคุมกำเนิดได้ประมาณ 99% เลยทีเดียว
- ยาคุมกำเนิดชนิดฉีด จะเป็นการฉีดยาคุมที่มีฮอร์โมนโพรเจสตินเข้าบริเวณกล้ามเนื้อต้นแขนของเพศหญิง เพื่อเป็นการป้องกันการตกไข่ มีประสิทธิภาพคุมกำเนิดได้ประมาณ 94% และยังช่วยให้อาการปวดประจำเดือนน้อยลงได้
- ฟองน้ำคุมกำเนิด มีรูปร่างคล้ายโดนัท มีความนุ่ม สำหรับสอดในช่องคลอด สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 76-88% โดยฟองน้ำคุมกำเนิดจะมียาฆ่าเชื้ออสุจิเพื่อเป็นการป้องกันการตั้งครรภ์
- หมวกครอบปากมดลูก มีลักษณะคล้ายกับฝาครอบ ผลิตจากยาง มีความยืดหยุ่นและนิ่ม ใช้สวมปิดครอบบริเวณปากมดลูก เป็นการป้องกันไม่ให้อสุจิไปไปปฏิสนธิกับไข่ ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 71–88%
- ถุงยางอนามัยผู้หญิง สำหรับถุงยางอนามัยที่ใช้กับผู้หญิงจะต้องสอดเข้าบริเวณของช่องคลอดก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 8 ชั่วโมง สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 79%
- ถุงยางอนามัยผู้ชาย การใช้ถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชายจะเป็นการป้องกันอสุจิไม่ให้มีการเคลื่อนตัวไปปฏิสนธิกับไข่ขณะที่มีเพศสัมพันธ์ มีประสิทธิภาพคุมกำเนิดได้ประมาณ 82% หลังใช้แล้วไม่ควรนำกลับมาใช้ซ้ำอีก
การคุมกำเนิดแบบถาวร
วิธีคุมกำเนิดแบบถาวรหรือการทำหมัน สามารถที่จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้เกือบ 100% ทำได้ทั้งเพศหญิงและเพศชาย สำหรับในเพศหญิงแพทย์จะผ่าตัดแล้วปิดท่อนำไข่ไม่ให้ไปปฏิสนธิกับอสุจิ สำหรับในเพศชายแพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อปิดทางเดินของท่ออสุจิ เพื่อไม่ให้อสุจิไปปฏิสนธิกับไข่ได้
สำหรับการเลือกวิธีคุมกำเนิดมาใช้ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละคน หากไม่มั่นใจว่าวิธีการต่างๆนั้นเหมาะกับตัวเองหรือไม่ ก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง